value คุณค่า
ผู้แต่ง : กันต์สินี สมิตพันธ์
ผู้ปรับแก้ : กีรติ บุญเจือ
ประเภทของคุณค่าตามความต้องการของมนุษย์มีอยู่ 2 ทาง ได้แก่ คุณค่าทางวัตถุ และคุณค่าทางจิตใจ การตัดสินคุณค่า คือ การเปรียบเทียบเพื่อเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งจากสองอย่าง หรือมากกว่า เช่น นักคิดกลุ่มอัตนัยนิยม (subjectivism) การตัดสินว่าอะไรจริงหรือเท็จ มีคุณค่าหรือไม่มีคุณค่าเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับจิตของผู้นั้นว่าจะมองความจริงหรือคุณค่าอย่างไร จึงไม่มีมาตรการที่แน่นอนในการกำหนดคุณค่าของสิ่งต่างๆ เป็นแนวคิดของพวกซาฟเฝิสท์ (sophist) เห็นว่ามนุษย์เป็นเครื่องวัดสรรพสิ่ง
แนวคิดของพวกประสบการณ์นิยม (empiricism) เห็นว่าการตัดสินคุณค่าเป็นเรื่องของประสบการณ์หรือรสนิยม เป็นผลจากการสะสมประสบการณ์ของแต่ละคน นักคิดกลุ่มปรนัยนิยม (objectivism) มองว่า การตัดสินว่าคุณค่าต้องมีกฎเกณฑ์ที่เป็นแบบแผนอันแน่นอนตายตัว มนุษย์รู้ว่าอะไรจริงหรือเท็จ มีคุณค่าหรือไม่มีคุณค่า การตัดสินว่าอะไรจริงหรือเท็จ มีคุณค่าหรือไม่มีคุณค่าเป็นสิ่งที่กำหนดเป็นมาตรการสากลได้ เพราะความจริง เป็นสิ่งสากล ผู้คิดเช่นนี้ ได้แก่ คานท์ (Immanuel Kant) ที่เห็นว่าคุณค่าเกิดจากความสำนึกในหน้าที่ อันเป็นคุณสมบัติธรรมชาติของมนุษย์ทุกคน มิลล์ (J.S.Mill) เห็นว่าหลักเกณฑ์ที่จะตัดสินคุณค่า คือ ผลประโยชน์ของคนส่วนมาก
ส่วนเพลโทว์ (Plato) เห็นว่าคุณค่าหรือกฎเกณฑ์ดังกล่าวคือ แบบซึ่งอยู่ในโลกแห่งมโนคติ เป็นต้น นักปรัชญากลุ่มสัมพัทธนิยม (relativism) ได้วิเคราะห์ข้อโต้แย้งของปรัชญาทั้งสองฝ่าย แล้วสังเคราะห์ความสัมพัทธ์จนสรุปได้ประเด็นสัมพัทธ์ที่สำคัญ 3 ประการคือ
- รสนิยมอันเป็นฐานความรู้ความสามารถของผู้ตัดสิน
- วัตถุหรืออารมณ์ของการตัดสิน
- สถานการณ์ซึ่งเป็นโอกาสให้มีการตัดสินเกิดขึ้น
ในที่สุดก็สนับสนุนฝ่ายปรนัยนิยมว่า ทุกอย่างมีค่าในตัวของมันเอง หรือว่ามนุษย์เป็นคนกำหนดขึ้น “คุณ” คือ มีประโยชน์ ส่วน “ค่า” คือระดับการเปรียบเทียบการให้ความสำคัญ ทั้งสองคำขึ้นอยู่กับบุคคล และขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อม จะเห็นว่ามีตัวอย่างมากมายรอบตัวเราที่เกี่ยวข้องกับการให้คุณค่า สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้น คงอยู่ เปลี่ยนไป เสื่อมหรือหายจากไปตามเหตุปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง คุณค่าที่แท้จริงอยู่ที่ตัวเรา หาใจของเราให้พบความจริง เราคิดอย่างไร รู้สึกอย่างไร จิตใจของเราก็เป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้น คุณค่าของสิ่งต่าง ๆ ขึ้นอยู่ที่ตัวของเราเป็นผู้ตัดสิน