Spinoza on cause of spontaneity สเผอโนว์เสอว่าด้วยสาเหตุของยถากรรม
ผู้แต่ง : รวิช ตาแก้ว
ผู้ปรับแก้ : กีรติ บุญเจือ
คนส่วนมากชอบคิดแบบมนุษยสัณฐานนิยม (Anthropomorphism) นับว่าเป็นอคติอย่างหนึ่ง เช่น คิดว่าเหตุการณ์ทุกอย่างในธรรมชาติจะต้องเป็นไปโดยมีจุดหมายแบบเดียวกับการทำงานของมนุษย์ จึงอนุมานเอาว่าพระเจ้าทำทุกอย่างเพื่อมนุษย์ และทรงสร้างมนุษย์มาก็เพื่อในมนุษย์นมัสการพระองค์
ทำไมจึงชอบคิดแบบมนุษยสัณฐานนิยม คนเราแต่เกิดไม่มีความรู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุของเหตุการณ์ แต่มีความโน้มเอียงที่จะอธิบายให้ได้ประโยชน์ต่อตัวเอง เมื่อเป็นเช่นนี้เขาจะคิดว่าเขามีใจเสรี เพราะเขารู้สึกตัวว่ามีความอยากและไม่รู้สาเหตุว่าทำไมจึงอยาก จึงอนุมานเอาว่าอยากด้วยใจเสรีและมีสมรรถภาพจะเลือกวิธีดับความอยากโดยเสรี เขาจึงลงมือปฏิบัติโดยมีจุดหมายที่ได้ประโยชน์ต่อตัวเอง(คือเพื่อดับความอยากของตนเอง)
เมื่อเขาเคยชินอยู่กับเรื่องเช่นนี้ เขาจึงเห็นว่าอันตปัจจัย (final cause) เป็นเรื่องสำคัญ เพราะสามารถดับความอยาก เขามีอำนาจเหนือสิ่งใดเขาก็จะพยายามให้สิ่งนั้นเป็นประโยชน์ต่อตัวเขา แต่ประสบการณ์ของเขาบอกให้รู้ว่าธรรมชาติไม่รับใช้เขาเสมอไป หรือไม่อยู่ในอำนาจของเขาที่จะกำหนดเอาเองได้ เช่น ตาเป็นประโยชน์ต่อเขาก็จริง แต่เขามิได้กำหนดเอง เขาจึงอนุมานว่าต้องมีผู้วางแผนไว้เพื่อประโยชน์ของมนุษย์ส่วนรวม มนุษย์แต่ละคนจึงได้ประโยชน์ตามอัตภาพ แต่ทว่าผู้วางแผนนั้นจะเป็นธรรมชาติเองไม่ได้ เพราะธรรมชาติเป็นวิถีให้เราได้ประโยชน์ จึงอนุมานว่าต้องมีเทพเจ้านอกธรรมชาติ แล้วก็คิดต่อไปเลยว่าพระองค์จะต้องมีน้ำพระทัยเสรีเหมือนที่เราคิดว่าเรามี พระองค์ทำเช่นนี้ก็ต้องมีจุดหมายเหมือนที่เรารู้สึกในตัวเรา คือทรงต้องการให้มนุษย์นมัสการพระองค์ ทำตามน้ำพระทัยของพระองค์ และเมื่อคิดน้ำพระทัยของเทพเจ้าตามแบบมนุษย์เช่นนั้น ก็เลยหาวิธีเอาใจเทพเจ้าโดยการบวงสรวงสวดมนต์และประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ เพื่อให้เทพเจ้าทรงพอพระทัย จะได้โปรดปรานเราเป็นพิเศษ เราก็ได้ประโยชน์เทพเจ้าก็พอพระทัย สมหวังกันทุกฝ่าย สเพอโนเซอ ประนามอคติเช่นนี้ด้วยคำพูดเผ็ดร้อนว่า พวกที่คิดถึงแต่ได้เช่นนี้ ครั้นไม่ได้สมหวังก็พาลด่าว่า “ธรรมชาติ เทพ และมนุษย์ ล้วนแต่บ้าบอคอแตกทั้งสิ้น”13
เหตุการณ์ร้ายและเหตุการณ์ดีเกิดขึ้นแก่คนดีและคนชั่วไม่เลือกหน้า แต่เมื่อคนเราเชื่อแบบอันตปัจจัยนิยม (finalism) แล้วรู้สึกอุ่นใจดีก็เลยไม่อยากมองเหตุผลที่จะทำให้ความอบอุ่นใจคลอนแคลนไป จึงอ้างว่า “มติของเหล่าเทพเข้าใจไม่ได้ (The judgements of the gods far surpass our comprehension) แล้วก็ถือความคิดเดิมต่อไปอย่างสบายใจ
จึงเป็นเรื่องที่มนุษย์เราประดิษฐ์ขึ้นตามความถนัดของตน ส่วนเหตุผล(ด้วยการพิสูจน์) ยืนยันว่าทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยความจำเป็นของพระเจ้า ไม่มีจุดมุ่งหมาย ไม่มีแผนการณ์ ไม่มีอะไรบังเอิญ วิธีการของคณิตศาสตร์นี่แหละที่ช่วยให้เราพ้นจากอคติและเข้าถึงความจริงจำเป็นนิรันดร