philosophyof Neanderthal Man ปรัชญาของมนุษย์เนอแอนเดอเธิล
ผู้แต่ง : รวิช ตาแก้ว
ผู้ปรับแก้ : กีรติ บุญเจือ
มนุษย์เนอแอนเดอเธิลอยู่ในช่วงปลายยุคร้อนต่อยุคหนาว ขณะที่ยังหนาวเย็นอยู่ พวกเขาก็หลบความหนาวเข้าไปอาศัยอยู่ในถ้ำ ต้องช่วยกันแย่งที่ของสัตว์ร้าย ต้องจุดไฟช่วยให้ความร้อน ต้องล่าสัตว์เอาขนติดหนังมาปกคลุมร่างกาย
ยามว่างก็ขบคิดปัญหาของชีวิตว่าทำอย่างไรจึงจะปลอดภัยมากขึ้น ทำอย่างไรจึงจะหาอาหารได้ง่ายขึ้น ทำอย่างไรชีวิตจึงจะน่าอภิรมย์มากขึ้น ตายแล้วจะเป็นอย่างไร ฯลฯ
พวกเขามีเวลาว่างพอที่จะฝากความคิดและอารมณ์ไว้ตามฝาผนังถ้ำที่พวกเขาอาศัยอยู่ เมื่อพวกพ้องตายลงไปเขาก็ฝังไว้ตามถ้ำตื้น ๆ ที่อยู่อาศัยไม่ได้ เพื่อระลึกถึงและมีโอกาสติดต่อกับวิญญาณของผู้ตายต่อไปอีกวัฒนธรรมของพวกเขาจึงเป็นวัฒนธรรมถ้ำรุ่นแรก
พวกเขาเสียเวลาต่อสู้กับสิ่งแวดล้อมและจัดระเบียบเสียนาน พอจะเข้าร่องเข้ารอยและเริ่มจะรู้จักฝากหลักฐานไว้บนฝาผนังถ้ำ ก็ถูกมนุษย์โครแมกนัน (Cro-magnon) รุกรานแย่งที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน แม้ผู้มาใหม่จะพัฒนามาจากมนุษย์ฉลาดด้วยกันแต่ทว่าผิวพรรณและรูปร่างต่างกันเห็นได้ชัด มนุษย์เนอแอนเดอเธิลมีผิวขาว รูปร่างเล็กกว่า รักสงบมากกว่า
ผู้รุกรานมีผิวดำแดง รูปร่างสูงใหญ่ มีมันสมองพัฒนามากกว่าและดุร้ายมากกว่า ไม่ทราบว่าอพยพมาจากที่ใด อาจจะเป็นมนุษย์เนอแอนเดอเธิลกลุ่มหนึ่งที่ได้อาหารดี จึงพัฒนาในด้านชีววิทยาขึ้นได้อย่างรวดเร็วก็เป็นไปได้ เพราะไม่ปรากฏร่องรอยการพัฒนาวัฒนธรรมทิ้งไว้ให้ปรากฏมาก่อน ครั้นหนาวเย็นก็แย่งที่อยู่อาศัยของพวกเนอแอนเดอเธิลซึ่งตัวเล็กกว่าและอ่อนแอกว่า จึงถูกล้างเผ่าพันธุ์ไป ที่รอดตายไปบ้าง ก็คงจะถูกกลืนไปในเผ่าอื่นซึ่งคงได้รับวัฒนธรรมไปพัฒนาวิจารญาณต่อไปคู่ขนานกับเผ่าโครแมกนัน
เมื่อพวกโครแมกนันผิวดำแดงยึดถ้ำได้ก็พบเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทันสมัยกว่าของตน รวมทั้งภาพวาดบนฝาผนังพร้อมทั้งอุปกรณ์การวาด จึงฝึกใช้ช่ำชองอย่างรวดเร็วและพัฒนาต่อไป ในขณะนี้ยากที่จะแยกได้ว่าวิจารญาณของมนุษย์เนอแอนเดอเธิลสร้างสรรค์ไว้เท่าใด และมนุษย์โครแมกนันต่อเติมเสริมแต่งตั้งแต่จุดใดมา เราได้แต่สันนิษฐานว่า หากเก่ามากก็เป็นของมนุย์เนอแอนเดอเธิล