Democritus the Laughing Philosopher เดอมาคเขรอเถิสนักปรัชญาชอบหัวเราะ
ผู้แต่ง : รวิช ตาแก้ว
ผู้ปรับแก้ : กีรติ บุญเจือ
เดอมาคเขริเถิส(Democritus ก.ค.ศ. 460-730) เป็นชาวเมืองแอบเดอรา (Abdera) อันเป็นเมืองเล็ก ๆ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของแคว้นเทรส (Thrace) (อย่าลืมว่าแคว้นในประวัติศาสตร์กรีกหมายถึงกลุ่มนครรัฐที่เป็นอิสระต่อกัน ไม่ใช่กลุ่มจังหวัดของประเทศหนึ่ง ๆ อย่างที่เราเข้าใจกันทุกวันนี้) อันเป็นแดนติดต่อกับแคว้นแมเสอโดเนียของจักรพรรดิแอลิกแซนเดอร์มหาราช ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของแคว้นแมเสอโดเนีย เดอมาคเขริเถิสเกิดก่อนจักรพรรดิแอลิกแซนเดอร์มหาราชประมาณ 1 ศตวรรษ บิดาของเดอมาคเขริเถิสเป็นพ่อค้าร่ำรวยของเมือง ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของชาวเมืองต้อนรับกษัตริย์เซอร์กสิสของเปอร์เซีย (Xerxes of Persia) ขณะเดินทัพผ่าน ทำพินัยกรรมแบ่งมรดก ที่ดิน อาคาร และเงิน 100 เหรียญแทเลินท์ให้ลูก 3 คน
ดิมาเครอเทิสอยากเดินทางหาความรู้จึงเลือกเงิน 100 เหรียญซึ่งเพียงพอให้เดินทางท่องเที่ยวได้เป็นปี จึงมุ่งเดินทางไปอียิปต์ เปอร์เซีย จนถึงชมภูทวีป เพื่อศึกษาหาความรู้จากบรรดานักปราชญ์ของดินแดนเหล่านี้ เปิดสำนักสอนที่เอเธนส์ เขียนตำราไว้ถึง 70 เล่ม ตอนปลายชีวิตกลับไปอยู่บ้านเกิด ชาวเมืองภูมิใจในความรอบรู้จึงลงมติให้เบี้ยเลี้ยงชีพ 100 เหรียญแทเลินท์
เดอมาคเขริเถิสนอกจากจะเป็นคนใฝ่รู้รอบด้านแล้ว ยังมีนิสัยสนุกสนานร่าเริง ชอบหัวเราะจนได้สมญาว่า นักปรัชญาชอบหัวเราะ(Laughing Philosopher) หนังสือ 70 เล่มที่เขียนนั้นเป็นสารานุกรมความรู้ของสมัยนั้นจริง ๆ มีทั้งปรัชญา จริยศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ตำราสมุนไพร ประวัติศาสตร์ วรรณคดี ดนตรี คณิตศาสตร์ ตำราตรวจโรค ฯลฯ มีการคัดลอกไปศึกษาต่อ ๆ กันอย่างกว้างขวาง น่าเสียดายและน่าแปลกใจที่ขณะนี้สูญหายเกือบหมด เหลือที่อ้างอิงไว้เป็นเศษนิพนธ์กระท่อนกระแท่น เท่าที่พอจะสันนิษฐานได้เกี่ยวกับประเด็นของเรามีดังต่อไปนี้
เดอมาคเขริเถิสสนใจประเด็นที่เธลิสตั้งไว้อย่างมากคือ ความคิดแบบกรีกที่เป็นเครือข่ายโดยหลักการแม่แบบที่สามารถอธิบายความรู้ของมนุษย์ได้ทั้งหมด แต่ยังไม่พอใจกับระบบที่นักปราชญ์เสนอขึ้นในขณะนั้น จึงตั้งใจอุทิศตนแสวงหาระบบที่น่าพอใจให้ได้ จากการแสวงหาความรู้จากแหล่งสำคัญ ๆ จนทั่วโลกเท่าที่รู้จักในขณะนั้น ก็สามารถประมวลขึ้นเป็นทฤษฎีปรมาณูนิยม
จนถือได้ว่าดิมาเครอเทิสเป็นบิดาผู้ให้กำเนิดทฤษฎีนี้อย่างแท้จริง น่าเสียดายที่งานนิพนธ์ของท่านไม่เหลือไว้ให้ศึกษาเทียบเคียงกับงานนิพนธ์ของเพลโทว์และแอเริสทาเทิล มิฉะนั้นก็คงจะเป็นคู่แข่งที่สำคัญอีกระบบหนึ่งของยุคโบราณก็ได้